หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

《百家姓》——蒋

  Jiǎnɡ  สกุล เจี่ยง

สกุล เจี่ยง นั้นสืบเชื้อสายมาจากโจวกงตั้น周公旦 ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก เนื่องจากท่านมีคุณูปการต่อประเทศชาติ จึงทำให้ปั๋วหลิง伯龄 ซึ่งเป็นบุตรคนที่ 3 ของโจวกงตั้นได้รับการแต่งตั้งให้ไปครองแคว้นเจี่ยง蒋国 ปํจจุบันอยู่ในเขตมณฑลเหอหนาน河南省 บางก็ว่าอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอกู้สึ固始县东北 บางก็ว่าอยู่ที่อำเภอกวางซัน光山县 ต่อมาแคว้นเจี่ยงได้ถูกแคว้นฉู่楚国รุกรานและล่มสลายลงในสมัยชุนชิว春秋 ลูกหลานของเจ้าแคว้นเจี่ยงจึงใช้ชื่อแคว้นมาเป็นชื่อสกุลสืบต่อมา
บุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณของสกุลเจี่ยงนั้น  ที่นี้จะของกล่าวถึงกวีเอกในสมัยราชวงศ์ฉิง清代ท่านหนึ่ง เจี่ยงซื่อเฉวียน蒋士铨 เนื่องจากสมัยเด็กนั้นครอบครัวยากจน มารดาของท่านจึงนำตอกไม้ไผ่มาหักเป็นท่อนๆ แล้วนำมาเรียงต่อกันตัวอักษรทีละตัวๆเพื่อสอนลูกให้รู้หนังสือ เมื่อเจี่ยงซื่อเฉวียนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่ว แม้แต่องค์พระจักรพรรดิก็ยังทรงเรียกเขาว่า หมิงซื่อ名士 ซึ่งมีความหมายว่า บุคคลผู้มีชื่อเสียง
แต่ด้วยความที่เจี่ยงซื่อเฉวียนเป็นคนที่รักมารดาของตนมาก เขาไม่เคยลืมเลือนพระคุณของมารดาที่ได้อบรมสั่งสอนเขาจนทำให้ได้ดิบได้ดี  ฉะนั้นไม่ว่าจะในบทกวีนิพนธ์หรือคำประพันธ์ของเขาในส่วนที่เขียนถึงมารดานั้น จะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจเป็นพิเศษเสมอ
และอีกบุคคลสำคัญของสกุล เจี่ยง ที่เป็นที่รู้จักกันในหน้าประวัติศาสตร์ชาติจีนยุดปัจจุบัน ก็คือท่านนายพลเจี่ยงจงเจิ้ง蒋中正 หรือรู้จักกันในนาม เจียงเจี้ยสือ蒋介石 หรือเจียงไคเช็กนั่นเองครับ เจี้ยสือเป็นชื่อรองของท่านครับ ท่านนายพลเป็นผู้ที่มีบทบาทในด้านการเมืองการปกครองของจีนครับ แต่ก็ต้องอพยพไปตั้งรับบาลประชาธิปไตยที่ไต้หวันและถึงแก่อสัญกรรมที่ไต้หวัน


ที่มา
1.     李杰主编. 百家姓[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P18-20.
2.     李逸安译注. 三字经百家姓千字文弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P53.
3.     蒋中正. zh.wikipedia.org  Web site. Available at: https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%94%A3%E4%B8%AD%E6%AD%A3. Accessed October 29, 2015.


ที่มารูปภาพ
1.      周公旦. zh.wikipedia.org  Web site. Available at: https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%91%A8%E5%85%AC%E6%97%A6. Accessed October 29, 2015.
2.      蒋士铨. zh.wikipedia.org  Web site. Available at https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%92%8B%E5%A3%AB%E9%93%A8. Accessed October 29, 2015.
3.      蒋中正. zh.wikipedia.org  Web site. https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%94%A3%E4%B8%AD%E6%AD%A3. Accessed October 29, 2015.
4.      . zidian.kxue.com  Web site. Available at: http://zidian.kxue.com/zi/jiang51_ziyuan.html Accessed October 29, 2015.
5.      . shufawu.com  Web site. Available at: http://www.shufawu.com/zd/info-276673/ Accessed October 29, 2015.

6.      蒋璨楷书字书法写法. shufawu.com  Web site. Available at: http://www.shufawu.com/zd/info-276670/ Accessed October 29, 2015.

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

《三字经》 บทที่12 一而十

三字经
บทที่  12

一而十,十而百
Yī ér shí, shí ér bǎi.
    百而千,千而万
Bǎi ér qiān, qiān ér wàn.
“ ตัวเลขนั้น เริ่มที่หนึ่ง จนถึงสิบ
จากหลักสิบ เพิ่มพูน เป็นหลักร้อย
จากหลักร้อย ทวีพัน มิใช่น้อย
พันสิบพัน ค่อยค่อยกลาย เป็นหลักหมื่น ”

                คนจีนในสมัยโบราณนั้นประดิษฐ์อักษรเลขหนึ่งขึ้นมา โดยมีความหมายถึงการแบ่งฟ้า ดิน หยิน หยาง ออกจากกัน เป็นจุดเริ่มของตัวเลขนั่นเอง และตัวอักษรตัวเลขนั้นก็จบที่อักษรเลขสิบ โดยตัวอักษรมีขีดขวางหนึ่งขีด ขีดแนวตั้งหนึ่งขีด ซึ่งก็มีความหมายรวมถึงทิศทั้งสี่ทิศด้วย จากหนึ่งถึงสิบ จากสิบถึงร้อย จากร้อยถึงพัน จากพันถึงหมื่น เลขและหลักเลขเหล่าเป็นสิ่งที่เราต้องรู้ต้องทราบกัน ท่านเปรียบกับการใช้ชีวิต การทำงานหรือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม สิ่งที่เป็นพื้นฐานนั้นสำคัญ เริ่มจากพื้นฐานทีละเล็กทีละน้อย ก็จะค่อยเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะไปถึงจุดสูงสุดหรือประสบความสำเร็จได้ในที่สุดนั้นเอง
   แล้วในสมัยก่อนนั้น คนในสมัยโบราณใช้วิธีใดในการบันทึกจำนวน ถ้าเป็นจำนวนเล็กๆน้อยๆก็ไม่คงจดจำได้ง่าย แต่ถ้ามีจำนวนที่มากขึ้น คงจะจดจำกันยาก ในสมับโบราณเมื่อเวลาสายัณห์พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า คนโบราณใช้การมัดปมเชือกในการบันทึกจำนวนแกะหรือสิ่งต่างๆ และตรวจสอบจำนวนปมที่มัดกับจำนวนสัตว์หรือสิ่งของเท่ากันหรือไม่ ต่อมาเมื่อจำนวนนั้นมากขึ้น การมัดปมเชือกไม่พอใช้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้อักษรตัวเลขกำเนิดขึ้น
ตามตำนานที่เล่ากันมา อักษรเลขหนึ่งถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นโดยฝูซี伏羲ในยุดดึกดำบรรพ์ และตัวเลขอื่นก็ถูกประดิษฐ์คิดค้นตามมาโดยชางเจี๋ย仓颉 ฝูซีใช้แผ่นไม้สองแผ่น โดยทำรอยขีดหลายๆขีดลงไปแทนจำนวนสัตว์หรือสิ่งของ และให้คนสองคนต่างถือไว้คนละแผ่นเป็นหลักฐาน กล่าวกันว่านี่คือหนังสือสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจีนเลยทีเดียว   

    
                ที่มา
1.    李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P24-25.

2.    李逸安译注. 三字经,百家姓,千字文,弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P7-8.

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

成语故事#2——爱毛反裘

爱毛反
ài máo fǎn qiú
สิ่งที่ควรไม่ทำ สิ่งที่ทำไม่ควร หรือ
คนที่ไม่รูจักสิ่งใดสำคัญหรือไม่สำคัญ


爱毛反裘หากจะแปลกันตรงตัวแล้ว  ก็จะแปลได้ว่า รักขนที่บุในเสื้อคลุมกันหนาวแต่กลับสวมกลับมันออกไว้ด้านใน แล้วสำนวนนี้มีที่มาอย่างไร  เกี่ยวอะไรกับเสื้อคลุมขนสัตว์  เรามาดูที่มาไปพร้อมๆกันนะครับ

ในบันทึก ซินซวี่ จ๋าซื่อ 《新序·杂事》ของหลิวเซี่ยง刘向ได้บัฯทึกถึงเว่ยเหวินโหว魏文侯มีวันหนึ่งในฤดูหนาว เขาได้ออกไปเที่ยวนอกวัง ท่ามกลางบรรยากาศหิมะตกขาวโพน ทุกคนต่างก็สวมใส่เสื้อคลุมกันหนาว ซึ่งทำจากหนังและขนสัตว์ไว้ให้ความอบอุ่น เสื้อคลุมชนิดนี้เรียกว่า ฉิวทันใดนั้น เว่ยเหวินโหวทอดสายตาไปสะดุดกับคนๆฟนึ่งที่สวมใส่เสื้อคลุมกันหนาวกลับด้าน จึงให้ขุนนางที่ติดตามมาไปสอบถามได้ความว่า เขานั้นรักและหวงแหนขนสัตว์บนเสื้อคลุมนี้มาก จึงสวมใส่เอาด้านขนนั้นเข้าไว้ข้างใน เว่ยเหวินโหวจึงกล่าวว่า “เมื่อหนังหาไม่แล้ว ขนนั้นจักมีอยู่ได้อย่างไรเล่า皮之不存,毛将焉附? คนๆนี้มีความคิดที่ไม่ถูกต้อง”

ต่อมาจึงกลายเป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบคนที่สิ่งที่ควรไม่ทำ สิ่งที่ทำไม่ควร หรือคนที่ไม่รู้จักสิ่งใดสำคัญหรือไม่สำคัญนั่นเองครับ

เรามาดูประโยคตัวอย่างกันครับ

车上脏乱不堪,他怕新大衣搞脏了,竟不顾寒冷,爱毛反裘,把大衣脱了下来。
Chē shànɡ zànɡ luàn bùkān, tā pà xīn dàyī ɡǎo zànɡ le, jìnɡɡù hánlěnɡ, ài máo fǎn qiú, bǎ dàyī tuōle xiàlái.
บนรถสกปรกรกรุงรังเหลือเกิน เขากลัวว่าจะทำให้เสื้อคลุมตัวใหม่สกปรก และก็ไม่กลัวความหนาวเลย สิ่งที่ควรไม่ทำ สิ่งที่ทำไม่ควรจริงๆ และเขาก็ถอดเสื้อนอกออก

作为学生,你应该好好学习,不应该爱毛反裘,把玩放在首位。
Zuòwéi xuéshēnɡ, nǐ yīnɡɡāi hǎo hào xuéxí, bù yìng ɡāi ài máo fǎn qiú, bǎwán fànɡ zài shǒuwèi.
เป็นนักเรียน เธอควรจะตั้งใจเล่าเรียน ไม่ควรทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เอาเรื่องเล่นมาไว้ก่อนเรื่องเรียน

ตอนนี้เราก็ได้รู้และเข้าใจทั้งที่มา  ความหมาย  และวิธีการนำไปใช้พูดของสำนวน爱毛反裘กันแล้วนะครับ  ลองใช้สำนวนนี้แต่งแระโยคแล้วนำมาแบ่งปันกันเรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ

ที่มา
1.      丁忱主编. 一生必读的300成语故事(绘图本)[M]. 武汉:长江文艺出版社, 2004, P2.

2.      用爱毛反裘造句. suibi8.com Web site. Available at: http://www.suibi8.com/chengyudaquan/44463-chengyu.html. Accessed October 27, 2005.

3.      爱毛反裘. baike.baidu.com Web site. Available at: http://baike.baidu.com/view/32476.htm. Accessed October 27, 2005.

4.      爱毛反裘. baike.com Web site. Available at: http://www.baike.com/wiki/%E7%88%B1%E6%AF%9B%E5%8F%8D%E8%A3%98. Accessed October 27, 2005.

故事——此文不长,但价值连城!


此文不长但价值连城
Cǐ wén bù chánɡ, dàn jiàzhí liánchénɡ!


某人得一宝贝每夜都放床头一次失手将紫壶盖打翻到地上惊醒后甚恼壶盖没了留壶身何用于是抓起壶扔到窗外天明发现壶盖掉在棉鞋上无损恨之一脚把壶盖踩得粉碎出门见昨晚扔出窗外的茶壶完好挂在树枝上……
Mǒu rén dé yī bǎobèi: Zǐshā hú, měi yè dōu fànɡ chuánɡ tóu. Yīcì shīshǒu jiānɡ zǐshā hú hú ɡài dǎ fān dào dìshànɡ, jīnɡxǐnɡ hòu, shén nǎo. Hú ɡài méiliǎo, liú hú shēn hé yònɡ? Yúshì zhuā qǐ hú rēnɡ dào chuānɡwài. Tiānmínɡ, fāxiàn hú ɡài diào zài mián xié shànɡ, wúsǔn. Hèn zhī, yī jiǎo bǎ hú ɡài cǎi dé fěnsuì. Chūmén, jiàn zuó wǎn rēnɡ chū chuānɡwài de cháhú, wánhǎo ɡuà zài shùzhī shànɡ……

เรื่องนี้แม้ไม่ยาว แต่มีคุณค่ายิ่งนัก
ขึ้นหัวเรื่องมาก็ดูแปลกแล้วใช่มั๊ยครับ “เรื่องนี้แม้ไม่ยาว แต่มีคุณค่ายิ่งนัก” แล้วมันคือเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนะ ถึงได้มีคุณค่ายิ่งนักอย่างนั้น เรื่องราวนี้เป็นโพสต์หนึ่งที่อาจารย์ของผมได้แบ่งปันมาให้ครับ(ตามที่มาด้านล่าง) เมื่ออ่านแล้วผมก็อยากจะแบ่งปันกันต่อไปครับ เพราะคุณค่าของเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ผมจะบรรจงแปลเป็นภาษาไทยเพื่อให้บุคคลทั่วไปได้อ่านและมีเข้าใจไปด้วยกันครับ เรามาดูเรื่องราวนี้ไปพร้อมกันนะครับ
มีคนหนึ่งได้สมบัติล่ำค่ามาชิ้นหนึ่ง คือ กาน้ำชาทรายม่วง(กาน้ำชาที่ทำจากทรายม่วงนี้ เป็นกาน้ำชาที่มีชื่อเสียงและราคาสูงมากของจีน) เขาจึงนำมันไปวางไว้ที่หัวเตียงทุกคืน มีอยู่ครั้งหนึ่งเขานั้นพลาดมือทำฝาของกาน้ำชาลูกนี้ตกลงไปที่พื้น เมื่อตั้งสติได้ เขาโมโหมาก ฝากาน้ำชาหายไปแล้ว จะเอาตัวกาน้ำชาไว้อีกทำไม ครั้นแล้วจึงหยิบกาน้ำชานั้นโยนออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อฟ้าสว่าง เขานั้นพบว่าเจ้าฝากาน้ำชาที่ทำตกพื้นนั้น ตกอยู่บนรองเท้านวมและไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นเลย เขานั้นลูกคับแค้นใจตัวเองมาก จึงใช้เท้าเหยียบและบดขยี้ฝากาน้ำชานั้นให้แหลกละเอียดเป็นผงเสีย เมื่อเดินออกมาจากบ้าน เขาก็พบว่าตัวกาน้ำชาที่โยนออกมานอกหน้าต่างเมื่อคืนวานที่ผ่านมา มันไปห้อยอยู่บนกินไม้โดนไม่บุบสลายเลย
ทันใดนั้นก็เกิดสติปัญญาขึ้นมาว่า บางครั้งนั้น เรื่องราวต่างที่เกิดขึ้น สามารถที่จะรอได้ เฝ้าดูได้ ไม่ต้องเร่งรีบเกินไป เรื่องราวมากมายมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอ ความใจร้อนผลีผลามมันเป็นเหมือนปีศาจ เรียนรู้ที่จะใจเย็นลง ก็เป็นปัญญาอย่างหนึ่งนะ

ที่มา
1.      此文不长,但价值连城!. mp.weixin.qq.com Web site. Available at: http://mp.weixin.qq.com/s?__biz=MzAwMTEwNjM4Nw%3D%3D&mid=400042678&idx=1&sn=b6eb6266c5991a8616d2b09fae0894a9&scene=1&srcid=1020yK3AtyjslJ3lvPpZXPvX&from=groupmessage&isappinstalled=0#rd. Accessed October 21, 2005.
ที่มารูปภาพ

1.      紫砂壶的起源,紫砂壶名家排名,紫砂壶的保养. yishu.com Web site. Available at: http://www.yishu.com/baike/1020.html. Accessed October 21, 2005.


วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

《三字经》 บทที่11 首孝悌

三字经
บทที่  11

首孝悌次见闻
Shǒu xiào tì, cì jiànwén.
    知某数识某文
Zhī mǒu shù, shí mǒu wén.
“ กตัญญู พ่อแม่ เคารพพี่
เป็นสิ่งที่ ควรมี  เป็นที่หนึ่ง
สองท่านว่า หาความรู้ ให้ลึกซึ้ง
รอบรู้ถึง คำนวณแล หลักภาษา ”

                สำหรับคัมภีร์สามอักษรในบทนี้  ก็จะพูดถึงคุณธรรมเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่และการให้เกียรติให้ความเคารพผู้เป็นพี่หรือผู้ที่มีอายุมากกว่าตนเอง  เป็นคุณธรรมที่ควรมีเป็นอันดับแรก  และการใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้รู้รอบรู้ลึกในสรรพวิชาศาสตร์ต่างๆก็เป็นสิ่งที่ควรมีรองลงมา  ซึ่งมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณธรรมความกตัญญูกตเวทิตาเรื่องหนึ่ง  กล่าวถึง  เสวียเปาชนะใจแม่เลี้ยง薛包尽心事后母  เรามาดูไปด้วยกันครับว่าด้วยเหตุใดเสวียเปาจึงสามารถชนะใจผู้เป็นแม่เลี้ยงได้
        ในสมับโบราณมีลูกกตัญญูคนหนึ่งนามว่า  เสวียเปา薛包  มารดาของเสวียเปาถึงแก่กรรมไปตั้งแต่เขายังเยาว์วัย  เขาจึงอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง  แต่ทว่าแม่เลี้ยงไม่ค่อยจะดีกับเสวียเปาเสียเท่าไร  ทั้งรังแกทรมาณเขาให้อดข้าวอดน้ำ  ทุบตีให้ได้รับความเจ็บปวดต่างๆนานา  แต่เสวียเปาเองก็ไม่ได้ตอบโต้หรือลุกขึ้นตอบโต้อะไร  ได้แต่อดทนและเคยปรนนิบัติทั้งพ่อและแม่เลี้ยงด้วยความจริงใจอย่างเต็มกำลังสม่ำเสมอ  จนในที่สุดด้วยความดีที่เขาเพียรทำก็ส่งผลให้แม่เลี้ยงของเขาเห็นถึงความดีของเสวียเปา  และยอมที่จะญาติดีกับเขาด้วย  ครั้นเมื่อพ่อของเสวียเปาสิ้นบุญแล้วนั้น  ลูกๆของแม่เลี้ยงก็ขอให้แยกบ้านแบ่งสมบัติกัน  เสวียเปาจึงได้นำของที่มีค่าทั้งหมดมอบให้แม่เลี้ยงและน้องๆไปหมด  จนผู้คนที่ได้ทราบเรื่องขแงเสวียเปากล่าวว่าเขาว่าเป็นคนโง่  แต่เสวียเปาเองไม่ได้คิดอย่างนั้น  เขากลับคิดว่านี่เป็นการตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเลี้ยงดูเรามา
        เรื่องราวความกตัญญูของเสวียเปานั้น  เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความอดทนไม่ว่าแม่เลี้ยงจะทำกับเขาอย่างไรก็ไม่ทำอะไรโต้ตอบกลับไป  เพื่อไม่ให้พอเกิดความไม่สบายใจขึ้น  และหลังจากที่พ่อเสียไปเพื่อไม่ให้ครอบครัวต้องทะเลาะแตกแยกก็ยอมที่จะเสียสละสิ่งที่ตนพึงมีให้แม่เลี้ยงและน้องๆ  เพื่อเป็นการไม่ให้ดงวิญญาณของพ่อและแม่ไม่สบายใจ  ความกตัญญูของเสวียเปาถ้าใช้มุมมองของคนในยุคปัจจุบันอย่างเราก็อาจจะกล่าวได้ว่า  ก็เกินไปไม่พอดี  จนตัวเองลำบาก  แต่ความกตัญญูของเขาก็ควรจะเอามาเป็นแบบอย่างสำหรับลูกทุกคน  เพียงแค่ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจหรือทุกข์ใจ  และพยายามทำให้พ่อแม่มีแต่ความสุขอิ้มเอมใจ  นี่ก็ถือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาอย่างหนึ่งแล้ว
    
                ที่มา
1.    李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P22-23.

2.    李逸安译注. 三字经,百家姓,千字文,弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P7-8.