《三字经》
บทที่ 12
“一而十,十而百。
Yī ér shí, shí ér bǎi.
百而千,千而万。”
Bǎi ér qiān, qiān ér wàn.
“ ตัวเลขนั้น
เริ่มที่หนึ่ง จนถึงสิบ
จากหลักสิบ
เพิ่มพูน เป็นหลักร้อย
จากหลักร้อย
ทวีพัน มิใช่น้อย
พันสิบพัน
ค่อยค่อยกลาย เป็นหลักหมื่น ”
คนจีนในสมัยโบราณนั้นประดิษฐ์อักษรเลขหนึ่งขึ้นมา
โดยมีความหมายถึงการแบ่งฟ้า ดิน หยิน หยาง ออกจากกัน เป็นจุดเริ่มของตัวเลขนั่นเอง
และตัวอักษรตัวเลขนั้นก็จบที่อักษรเลขสิบ โดยตัวอักษรมีขีดขวางหนึ่งขีด ขีดแนวตั้งหนึ่งขีด
ซึ่งก็มีความหมายรวมถึงทิศทั้งสี่ทิศด้วย จากหนึ่งถึงสิบ จากสิบถึงร้อย
จากร้อยถึงพัน จากพันถึงหมื่น เลขและหลักเลขเหล่าเป็นสิ่งที่เราต้องรู้ต้องทราบกัน
ท่านเปรียบกับการใช้ชีวิต การทำงานหรือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
สิ่งที่เป็นพื้นฐานนั้นสำคัญ เริ่มจากพื้นฐานทีละเล็กทีละน้อย
ก็จะค่อยเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะไปถึงจุดสูงสุดหรือประสบความสำเร็จได้ในที่สุดนั้นเอง
แล้วในสมัยก่อนนั้น
คนในสมัยโบราณใช้วิธีใดในการบันทึกจำนวน ถ้าเป็นจำนวนเล็กๆน้อยๆก็ไม่คงจดจำได้ง่าย
แต่ถ้ามีจำนวนที่มากขึ้น คงจะจดจำกันยาก ในสมับโบราณเมื่อเวลาสายัณห์พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
คนโบราณใช้การมัดปมเชือกในการบันทึกจำนวนแกะหรือสิ่งต่างๆ
และตรวจสอบจำนวนปมที่มัดกับจำนวนสัตว์หรือสิ่งของเท่ากันหรือไม่
ต่อมาเมื่อจำนวนนั้นมากขึ้น การมัดปมเชือกไม่พอใช้
จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้อักษรตัวเลขกำเนิดขึ้น
ตามตำนานที่เล่ากันมา อักษรเลขหนึ่งถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นโดยฝูซี伏羲ในยุดดึกดำบรรพ์
และตัวเลขอื่นก็ถูกประดิษฐ์คิดค้นตามมาโดยชางเจี๋ย仓颉 ฝูซีใช้แผ่นไม้สองแผ่น
โดยทำรอยขีดหลายๆขีดลงไปแทนจำนวนสัตว์หรือสิ่งของ และให้คนสองคนต่างถือไว้คนละแผ่นเป็นหลักฐาน
กล่าวกันว่านี่คือหนังสือสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจีนเลยทีเดียว
ที่มา:
1. 李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社,
2005, P24-25.
2.
李逸安译注. 三字经,百家姓,千字文,弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P7-8.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น