หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

《三字经》บทที่ 6 子不学

《三字经》

บทที่  6



“子不学,非所宜。

Zǐ bù xué, fēi suǒ yí.

         幼不学,老何为?”

Yòu bù xué, lǎo hé wéi?

“เมื่อเยาว์วัยบ่พากเพียรเรียนเขียนอ่าน

บ่ ฝึกการฝึกงานใช่เหมาะสม

เมื่อวัยเด็กบ่ขัดเกลาบ่เพาะบ่ม

จะตรอมตรมครั้นแก่ตัวเพราะไร้คุณ”

          มีเรื่องราวเล่าสืบทอดกันมาว่า  ในสมัยราชวงศ์เหวียน(หยวน)  元朝  Yuán cháมีชายคนหนึ่งนามว่า  หลิวหมิ่นจง  刘敏中  Liú Mǐnzhōnɡ เมื่ออายุ  13  ปี  เขาได้ศึกษาตำราจำนวนมาก  และมีความคิดเห็นเป็นของตนเองแล้ว  แม้แต่อาจารย์ของเขายังยอมรับนับถือในบทความงานเขียนของเขาเป็นอย่างยิ่ง  โดยมักจะชื่นชมว่า  แม้อายุเจ้ายังน้อย  แต่กลับมีความคิดและปณิธานกว้างไกลนัก  เมื่อเติบใหญ่เขาได้รับราชการเป็นขุนนางในราชสำนัก  เขามักจะลงโทษขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงน้อยใหญ่ทั้งหลาย  ขจัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร  ในเวลาปกติ  เขามักจะเสียน้ำตาให้กับความทุกข์ยากของประชาชนทั้งหลาย  และเป็นทุกข์เพราะราชสำนักที่มืดหม่นจนอดหลับอดนอน  ชื่อเสียงของเขาขจรขจายไปทั่วสารทิศ  และได้รับการยกยิ่งจนถึงทุกวันนี้

                นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า  ความขยันหมั่นเพียร  ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มานะฝึกฝนตนเองตั้งแต่เด็กๆนั้น  เมื่อเติบโตขึ้นมาก็จะสามารถนำความรู้ที่สั่งสมมาช่วยพัฒนาสังคมส่วนรวมได้  เพราะฉะนั้น  เรามาร่วมกันส่งเสริมให้ทุกๆคนนั้น  อ่านหนังสือ  ค้นคว้าหาความรู้  และเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์  สังเคราะห์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ออกมาเผยแผ่กัน  แบ่งปันกันให้มากๆ  อย่างน้อยก็เป็นการเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเอง  และถ้าจะให้ดีก็ต้องแบ่งปันกันเพื่อเป็นการสร้างคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วย    

ที่มา
1.    李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P12-13.

    2.    李逸安译注. 三字经,百家姓,千字文,弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P5.

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Vocabulary 词语 #6 积雪草

บัวบก  ได้ยินก็ขมแล้ว
“积雪草”一听就苦了
“Jī xuě cǎo” yī tīng jiù kǔ le



                ตอนกลางคืนของเมื่อวาน  ตาผมโทรศัพท์มาถามว่า  “บัวบก”  ภาษาจีนกลางพูดว่ายังไง  ผมก็กุลีกุจอตรวจหาคำศัพท์และตรวจความถูกต้องทันที  หลังจากได้คำตอบก็รีบโทรกลับไปบอกคำตอบกับตาว่า  “บัวบก”  ภาษาจีนกลางเขาเรียกว่า  “积雪草Jī xuě cǎo” 

                หลังจากที่วางสายไป  ผมก็คิดว่ามันไม่ควรจบแค่คำว่า    “积雪草Jī xuě cǎo”  เฉยๆ  มันดูง่ายๆไป  ผมจึงค้นหาคำศัพท์ภาษาจีนที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ  “บัวบก”  เพิ่มเติม  และก็อยากนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆผู้ที่มีความสนใจในภาษาจีนครับ

                “บัวบก”  ภาษาจีนเรียกว่า  “积雪草Jī xuě cǎo”  นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอื่นอีกมาก  อาทิ 
·         十八缺Shíbā quē
·         崩大碗Bēnɡ dà wǎn
·         马蹄草Mǎtí cǎo
·         雪公根Xuě ɡōngɡēn
·         蚶壳草Hān ké cǎo
·         铜钱草Tónɡqián cǎo
·         老虎草Lǎohǔ cǎo
·         落得打Luòdédǎ

“บัวบก”  มีรสชาติค่อนไปทางขม  รสขม  ภาษาจีนเรียกว่า  “苦味kǔwèi”  หรือถ้าต้องการบอกว่า  “บัวบกขมมาก”  ภาษาจีนพูดว่า  “积雪草很苦jī xuě cǎo hěn kǔ”  เป็นต้น  แต่ก็สามารถน้ำมาทำเป็นเครื่องดื่มดื่มได้  คำว่า  “เครื่องดื่ม”  ภาษาจีนก็คือ  “饮料yǐnliào”  ถ้าจะบอกว่า  “ทำเป็นเครื่องดื่มได้”  ภาษาจีนพูดว่า  “可以做成饮料喝kěyǐ zuò chénɡ yǐnliào hē

สรรพคุณของ  “บัวบก”  นั้นมีหลายอย่างด้วยกัน  แต่ที่เรารู้กันโดยทั่วไปนั้น  ก็คือ  แก้อาการช้ำใน  รักษาอากรฟกช้ำ  “แก้หรือรักษา”  ภาษาจีนสามารถใช้คำว่า  “zhì”   “治疗zhìliáo”  “อาการช้ำใน”  ภาษาจีนเรียกว่า  “内伤nèishānɡ”  “อาการชกช้ำ”  ภาษาจีนเรียกว่า  “瘀伤yūshānɡ”  เพราะฉะนั้น  ถ้าจะบอกว่า  “แก้หรือรักษาอาการช้ำใน”  ภาษาจีนสามารถได้อย่างนี้ว่า  “/治疗内伤zhì/zhìliáo nèishānɡ และถ้าต้องการบอกว่า  “แก้หรือรักษาอาการฟกช้ำ”  ภาษาจีนก็พูดอย่างนี้ว่า  “/治疗瘀伤zhì/zhìliáo yū shānɡ”   หรือจะพูดว่า  “消除瘀伤xiāochú yū shānɡ”  ก็จะหมายความว่า  “ลดอาการชกช้ำ”

“บัวบก”  นอกจากจะรักษาอาการฟกช้ำและอาการช้ำใจ...เอ้ย...ช้ำในแล้ว  ยังมีสรรพคุณอย่างอย่างอีก  แก้ร้อนใน  ลดความดันโลหิตสูง  คำว่า  “ร้อนใน”  ภาษาจีนเขาเรียกว่า  “上火shànɡ huǒ”  ส่วนถ้าจะบอกว่า  “แก้ร้อนใน”  ภาษาจีนก็พูดว่า  “去火qù huǒ”  “ความดันโลหิตสูง”  ภาษาจีนเรียกว่า  “高血压ɡāo xiěyā”  คำกริยาที่ใช้กับคำศัพท์คำนี้  คือ  “ลด(ให้ต่ำลง)”  ภาษาจีนใช้คำนี้ครับ  “降低jiànɡ”  เพราะฉะนั้น  ถ้าจะบอกว่า  “ลดความดันโลหิตสูง”  ภาษาจีนเขาพูดว่า  “降低高血压jiànɡɡāo xiěyā

เราได้ทราบชื่อเรียกและคำศัพท์ภาษาจีนที่เกี่ยวข้องกับ  “บัวบก”  ไปพอสมควรแล้วนะครับ  ต่อไปถ้าเราจะบอกว่า  “บัวบก”  มีสรรพคุณอย่างนั้นอย่างนี้  คำว่า  ”มี”  ทุกคนทราบอยู่แล้วครับว่าภาษาจีนพูดว่า  “yǒu”  ส่วนคำว่า  “สรรพคุณ”  ภาษาจีนใช้คำนี้ครับ  “功效ɡōngxiào”  ฉะนั้น  ถ้าต้องการบอกว่า  “บักบกมีสรรพคุณในการรักษาอาการช้ำใจ  ลดอาการฟกช้ำ  แก้ร้อนใน  และลดความดันโลหิตสูงและอื่นๆ”  เราสามารถพูดเป็นภาษาจีนอย่างนี้ครับ  “积雪草有治内伤、消除瘀伤、去火和降低高血压等等的功效。Jī xuě cǎo yǒu zhì nèishānɡ, xiāochú yū shānɡ, qù huǒ hé jiànɡɡāo xiěyā děnɡ děnɡ de ɡōngxiào.”  ในประโยคคำว่า  “等等děnɡděnɡ”  มีความหมายว่า  “อื่นๆ”  วางไว้หลังวลีหรือประโยคครับ

คราวนี้เรามานำคำศัพท์ภาษาจีนเกี่ยวกับ  “บัวบก”  ข้างบนนี้  มาแต่งให้เป็นเรียงความสั้นสักหนึ่งย่อหน้ากันนะครับ

         Buobok”汉语叫做“积雪草”,它还可以叫做十八缺、崩大碗、马蹄草、雪公根、蚶壳草、铜钱草、老虎草、落得打等等。“积雪草”有苦味,但是可以做成饮料喝,对身体很好。最重要的是“积雪草”有治内伤、消除瘀伤、去火和降低高血压等等的功效。
    “Buobok” hànyǔ jiàozuò “jī xuě cǎo”, tā hái kěyǐ jiàozuò Shíbā quē, Bēnɡ dà wǎn, Mǎtí cǎo, Xuě gōnɡ ɡēn, Hān ké cǎo, Tónɡqián cǎo, Lǎohǔ cǎo, Luòdé dǎ děnɡ děnɡ.“Jī xuě cǎo” yǒu kǔwèi, dànshì kěyǐ zuò chénɡ yǐnliào hē, duì shēntǐ hěn hǎo. Zuì zhòngyào de shì “jī xuě cǎo” yǒu zhì nèishānɡ, xiāochú yū shānɡ, qù huǒ hé jiànɡdī gāo xiěyā děnɡděnɡ de ɡōngxiào.

                เห็นมั๊ยครับเพื่อนๆ  เพียงแค่คำศัพท์คำเดียวสามารถขยายไปถึงคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องได้อีกตั้งหลายคำ  สามารถนำมาแต่งเป็นวลีหรือกลุ่มคำง่ายๆ  และนำมาเรียบเรียงให้เป็นเรียงความสั้นๆได้หนึ่งย่อหน้าเลย  ลองหาคำศัพท์อะไรก็ได้แล้วนำมาค้นคว้าหาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง  นำคำศัพท์เหล่านั้นมาแต่งเป็นวลีหรือประโยคง่าย  และค่อยๆเรียงให้เป็นเรียงความสั้นๆดูนะครับ  เราจะได้อะไรมากกว่าแค่คำศัพท์คำเดียวที่หาๆเสร็จก็วางทิ้งไว้เฉยๆนะครับ

สามารถติดตามอ่านบทความและโพสต์ย้อนหลังได้ที่ http://chinesespeakwell.blogspot.com/

ที่มา
ขอบคุณภาพประกอบจาก

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

百家姓——余

“余”  Yú  หวี  หรือ  แซ่อื้อ



                บรรพบุรุษของสกุล  Yú  หวี  หรือ  แซ่อื้อในสำเนียงภาษาจีนแต้จิ๋วนั้น  ในที่นี้ของเรียกชื่อสกุลตามสำเนียงภาษาจีนกลางนะครับ  สืบเชื้อสายมาจากขุนนางของแคว้นฉิน  秦国  Qín ɡuo  นามว่า  由余  Yóuyú  โหยวหวี  ในสมัยชุนชิว  春秋  Chūnqiū  ซึ่งผู้นี้เป็นชาวแคว้นจิ้น  晋国  Jìn ɡuó  และได้เข้ามารับราชการในสมัยเจ้าแคว้นฉินมู่กง  秦穆公  Qín  mù  ɡōnɡ  ได้สร้างคุณูปการต่อแคว้นฉินเป็นอันมาก  ลูกหลานรุ่นหลังจึงได้ใช้ชื่อและชื่อรองของท่านมาเป็นชื่อสกุล  โดยแยกออกเป็น  2  สายด้วยกัน  คือ  สายหนึ่งใช้ชื่อท่าน  โหยว   Yóu  เป็นชื่อสกุล  และอีกสายหนึ่งใช้ชื่อรองของท่าน  หวี   Yú  เป็นชื่อสกุล    และใช้เป็นชื่อสกุลสืบทอดต่อกันมา   ซึ่งสองสกุลนี้มีบรรพบุรุษเดียวกันนั่นเอง
               
                อีกสายหนึ่งของสกุล    Yú  หวี  จากบันทึกในตำรากั๋วหวี  《国语》  Guóyǔ  ได้กล่าวไว้ว่าสกุล    Yú  หวี  เป็นสกุลหนึ่งในห้าสกุลที่แตกออกมาจากสกุลเหว่ย    Wěi  ซึ่งเป็นชาวชนเผ่าชื่อตี๋  赤狄族  Chìdí zú 

                อีกสายหนึ่งของสกุลหวี    Yú หวี  สายนี้เป็นทายาทของอัครเสนาบดีในสมัยจักรพรรดิเจงกิสข่าน  ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสกุลเถี่ยมู่  铁木(铁穆)  Tiěmù    ในตอนนั้นเจงกิสข่านหูเบาฟังคำยุแย่จึงได้มีโองการสั่งจับตระกูลอัครเสนาบดีในขณะนั้น  เหล่าลูกๆทั้ง  5  คนของอัครเสนาบดีต่างพากันหลบหนีราชภัยออกนอกเมืองไปในตอนกลางคืน  เมื่อถึงเมืองกุ้ยโจว  贵州  Guìzhōu  ระหว่างทางเจอกองทัพที่นำโดยเจงกิสข่านมาเพื่อไล่ล่าพวกเขา  พวกเขาทั้ง  5  คนจึงลงไปซ๋อนตัวในน้ำใต้สะพานเฟิ่งจิ่น  凤锦桥  Fènɡjǐn  qióo  ทหารเห็นว่าผิดสังเกต  จึงได้นำความไปทูลให้เจงกิสข่านทรงทราบ  แต่กลับได้รับคำตอบว่า  ในน้ำมันมีปลา  อย่าได้ตกใจอะไรไป  เร่งเดินทัพไปข้างหน้าเสียจะดีกว่า  เมื่อกองทัพผ่านไปเหล่าลูกๆทั้ง  5  คนของอัครเสนาบดีเถี่ยมู่จึงพ้นราชภัยในครั้งนั้น  จึงต่างพากันเปลี่ยนชื่อสกุลเสียใหม่  ในตอนแรกจะใช้  Jīn  จิน  เป็นชื่อสกุล  แต่ในท้ายที่สุดจึงตัดสินใจใช้    Yú  หวี  เป็นชื่อสกุลแทน  เพราะอักษร    และอักษร  อ่านออกเสียงเหมือนกัน  คือ  Yú  หวี  และยังหมายถึงตอนที่เจงกิสข่านตรัสกับทหารว่า  “水中有鱼  shuǐ zhōng yǒu yú  ในน้ำมีปลา  และตัวอักษร    Yú  หวี ก็คล้ายๆกับอักษร  Jīn  จิน    เพียงแต่มีขีดน้อยกว่ากันเพียงหนึ่งขีดเท่านั้น             

                ในสมัยซ่งใต้  南宋  nán Sònɡ  มีขุนพลจากสกุลหวี  ผู้ต่อต้านราชสำนักเหวียน  元朝  Yuán cháo  ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง  ในขณะที่ท่านดูแลรักษาเมืองเสฉวน  四川  Sìchuān  นั้น  ได้เชื้อเชิญและรวบรวมผู้ที่มีสติปัญญาความสามารถให้เข้ามาช่วยบ้านเมือง  และท่านก็ได้ให้ความเคารพและให้เกียรติเป็นอย่างยิ่งแก่บรรดาปราชญ์เมธีและเหล่าแม่ทัพนายกอง

                เมืองเสฉวนในตอนนั้น  มีพี่น้องตระกูลหย่าน    Rǎn  ซึ่งทั้งสองเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊  ท่านขุนพลหวีได้ให้การต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีเยี่ยงแขกผู้มาเยือน  ผ่านไปเดือนแล้วเดือนเล่า  ทั้งสองพี่น้องก็ไม่ยอมออกอุบายช่วยเหลือ  ท่านขุนพลหวีก็ไม่ลดละความพยายามที่จะแสดงความจริงใจ  จึงได้เพิ่มระดับการต้อนรับดูแลขึ้นเยี่ยงบุคคลสำคัญขั้นสูงของบ้านเมือง  จนในที่สุด  สองพี่น้องตระกูลหย่านจึงใจอ่อนออกอุบายในการรับมือกับข้าศึกและนโบบายในการปกครองเมืองเสฉวนให้ขุนพลหวี

ที่มา
1.    李杰主编. 百家姓[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P79.
2.    李逸安译注. 三字经百家姓千字文弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P64.
3.    www.baike.com/wiki/余氏

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

《三字经》บทที่ 5 养不教

《三字经》


บทที่  5



“养不教,父之过。

Yǎng bù jiāo, fù zhī guò.

         教不严,师之惰。”

Jiāo bù yán, shī zhī duò.


“รู้แต่เลี้ยงลูกบ่อบรม

บ่รู้สอนเพาะบ่มผิดพ่อแม่

บ่เข้มงวดขัดเกลาศิษย์อ่อนแอ

ความผิดครูโดยแท้จงโทษตน”


                มีเรื่องราวเล่าสืบทอดกันมาถึงตำนานมารดาเวี่ยเฟยสักคำว่าแทนคุณชาติให้จงหนักบนแผ่นหลังลูกชาย  เวี่ยเฟย  岳飞 Yuè Fēi เมื่อวัยเยาว์นั้น  ทางบ้านยากจนแสนเข็ญ  แม้ว่าจะมีชีวิตที่ลำบากสักแค่ไหน  แต่มารดาของเวี่ยเฟยมิเคยเลยสักครั้งที่จะละทิ้งการอบรมสั่งสอนลูกน้อย  นางได้ประดิษฐ์กระบะทรายขึ้น  เพื่อให้เวี่ยเฟยใช้กิ่งไม้ฝึกเขียนตัวอักษร  และนางยังส่งลูกไปร่ำเรียนวิชาศิลปะการป้องการตัวกับอาจารย์โจวถง  周桐 Zhōu Tónɡ ผู้มีชื่อเสียง  เพื่อเป็นการทำให้เวี่ยเฟยมีความจงรักภักดีต่อมาตุภูมิของตน  นางจึงสักอักษรจีนไว้ที่กลางแผ่นหลังของเวี่ยเฟยว่า  “精忠报国 Jīnɡ zhōnɡ bào ɡuó ”  ซึ่งมีความหมายว่า  “จงรักภักดีและตอบแทนคุณชาติ”  ให้เวี่ยเฟยไม่ว่าเวลาไหนจงอย่าลืมนึกถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองมาเป็นอันดับแรก

ในยุคปัจจุบันนี้ขอแค่เพียงเราทุกคนสักความจงรักภักดีและจิตใจมุ่งจะสนองคุณชาติลงไปในใจ  และรำลึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ  เชื่อว่าประเทศชาติก็จะสามารถขับเคลื่อนก้าวไปข้างหน้าได้อย่างถาวร   

ที่มา
   1.李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P10-11.

       2.李逸安译注. 三字经,百家姓,千字文,弟子规[M]. 北京:中华书局, 2009, P5.

百家姓——王

“王   Wáng หวางสกุลที่สืบเชื้อสายจากกษัตริย์และชนชั้นสูง




สกุล  Wánɡ หวาง  หรือในสำเนียงภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า  “เฮ้ง”  ในที่นี้ขอเรียกตามสำเนียงภาษาจีนกลางแล้วกันนะครับ

สกุล  Wánɡ หวาง  เป็นสกุลที่มีจำนวนประชากรผู้ใช้มากเป็นอันดับ  2  ของจำนวนประชากรจีน  มีผู้ใช้คิดเป็นร้อยละ  7.41  คิดเป็นประชากรจำนวน  88,900,000  คน  ถือเป็นสกุลใหญ่อันดับต้นของชาวจีนเลยที่เดียว

สกุล  Wánɡ หวาง  นั้นมีบรรพบุรุษมาจากหลากหลายสายด้วยกัน  ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต่างก็สืบเชื้อสายจากบรรพกษัตริย์ ชนชั้นสูงหรือชนชั้นปกครองแห่งราชวงศ์ซาง  商朝  Shānɡ cháและราชวงศ์โจว  周朝  Zhōu cháo  อาทิ  องค์ชายปี่กัน  比干  Bǐ ɡāและองค์ชายจีจึ  箕子  Jī  zi  ทั้งสองท่านล้วนเป็นพระญาติพระวงศ์และขุนนางผู้ใหญ่ในรัชสมัยโจ่วหวาง  纣王  Zhòu wánɡ  แห่งราชวงศ์ซาง  หรือองค์ชายปี้กงเกา  毕公高  Bì ɡōng ɡāองค์ชายลำดับที่  15  ในกษัตริย์โจวเหวินหวาง  周文王  Zhōu wén wánɡ หรือซิ่นหลิงจวิน  信陵君  Xìn línɡjūn  บุตรของเจ้าแคว้นเว่ยเจาหวาง魏昭王 Wèi zhāo wánɡ  แห่งแคว้นเว่ย  魏国  Wèi ɡuó  ในสมัยจ้านกั๋ว  战国  Zhàn ɡuó จะเห็นได้ว่าที่กล่าวมาข้างต้นนั้นล้วนเป็นเชื้อสายของกษัตริย์  ชนชั้นสูงและชนชั้นปกครองทั้งสิ้น  คนในสมัยนั้นจึงเรียกคนเหล่านี้ว่าเป็น  “ตระกูลของกษัตริย์  หรือ  หวางจยา  王家  Wánɡ jiā”  ลูกหลานรุ่นหลังจึงใช้  Wánɡ หวาง  เป็นชื่อสกุลสืบทอดต่อกันมา 

นอกจากนี้ในปลายสมัยจ้านกั๋ว  แคว้นฉิน  秦国  Qín ɡuó  ได้ทำการกวาดล้างแคว้นต่างๆรวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว  บรรดาเจ้าแคว้นต่างๆและลูกหลานของพวกเขาต่างอพยพหลบหนีการไล่ล่าของแคว้นฉิน  จึงได้เปลี่ยนชื่อและสกุลเป็นสกุลหวางด้วย

ในสมัยตงจิ้น  东晋  dōnɡ Jìn  หรือจิ้นตะวันออก  มีบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งของสกุลหวาง  นามว่า  “หวางซีจือ  王羲之  Wánɡ Xī zhī บุคคลท่านนี้เป็นนักเขียนพู่กันจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนและนักการทหาร  มีชื่อรองว่า  “อี้เส้า  逸少  Yì shào”  รับราชการในตำแหน่งแม่ทัพขวา  ผู้คนต่างขนานนามให้ท่านว่า  “ท่านแม่ทัพขวาหวาง  王右军  Wánɡ yòu jūn” 

มีเรื่องราวเล่าสืบกันมาว่า  ในสมัยนั้น  ท่านราชครูซีเจี้ยน  郗鉴  Xī jiàn  ได้ส่งคนไปทาบทามลูกเขยที่บ้านสกุลหวาง  บรรดาพี่น้องสกุลหวางต่างก็มิมีใครอยากจะเป็นเขยของท่านราชครู  ต่างพากันหวาดระแวงว่าจะไปต้องตาผู้มาทาบทามเข้า  แต่ทว่ากลับมีบุคคลหนึ่งนอนหลับอย่างสบายใจเฉิ่มอยู่ในห้องนอนปีกขวาของจวน  คนๆนั้นก็คือ  หวางซีจือ  และในที่สุดเขาคนนี้ก็เป็นคนที่ราชครูถูกใจให้เป็นลูกเขย

นี่คือที่มาของสกุล  Wánɡ หวาง  ที่ตัวผมเองก็สงสัยมานาน  ว่าตกลงสกุลนี้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์จริงหรือไม่  และในวันนี้ก็ได้ทราบแล้วว่า  Wánɡ หวาง  มีทั้งเชื้อสายของกษัตริย์  เจ้าแคว้น  ชนชั้นสูงและชนชั้นปกครองจริงๆ