หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

《三字经》 บทที่ 2 苟不教

《三字经》

บทที่  2


苟不教,性乃迁。
Gǒu bù jiào, xìng nǎi qiān.
教之道,贵以专。
Jiào zhī dào, guì yǐ zhuān.

“หากไม่อบรมสั่งสอนลูกหลาน
อันสันดานนิสัยจะแปรเปลี่ยนผัน
การอบรมสั่งสอนลูกหลานนั้น
จิตใจต้องตั้งมั่นไม่หวั่นไหว”

          คัมภีร์สามอักษรบทที่สองนี้  มุ่งชี้ให้เห็นถึงจิตใจที่ต้องตั้งมั่นว่าจะอบรมสั่งสอนบุตรหลานให้ดำรงอยู่ในธรรมนองครองธรรม  ไม่ให้นิสัยสันดานที่ดีตั้งแต่กำเนิดนั้นถูกสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีทำให้เปลี่ยนแปลงไป  หากแม้ว่าจิตใจของผู้ที่จะอบรมสั่งสอนไร้ซึ่งความมุ่งมั่น  ไร้ซึ่งความกล้าที่จะยืนหยัดต่อสิ่งต่างๆที่จะเข้ามากระทบจิตใจให้เกิดความรู้สึกท้อถอย ไม่ว่าเราจะมีวิธีที่จะอบรมสั่งสอนลูกหลานที่ดีสักเท่าไร  ก็จะไม่มีวันสำเร็จไปได้

            มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่จะเป็นตัวอย่างของการมีจิตใจมุ่งมั่น  ยืนหยัด  ไม่หวั่นไหวของแม่ที่อยากจะให้ลูกนั้นได้ดี  เรื่องมันมีอยู่ว่า

            唐寅Táng Yín ถังหยิน  หรือที่เราคุ้นกันในนาม唐伯虎Táng Bóhǔ  伯虎เป็นชื่อรองของเขา เขาเป็นจิตรกรเอกสมัยราชวงศ์Míng หมิง  ถังหยินเมื่อครั้งยังเป็นเด็กนั้น  เขามีพรสวรรค์ในการวาดภาพเป็นอย่างมาก  พวกคนมีเงินสมัยนั้นจึงมาเชิญให้เขาวาดภาพให้หลายต่อหลายคน  จนทำให้ตัวเขานั้นรู้สึกหยิ่งทะนงในความเก่งกาจของตนเอง  มารดาของเขาเห็นดังนี้แล้วจึงเกิดความไม่สบายใจ  วันหนึ่งมารดาของถังหยินได้กล่าวกับลูกชายว่า  ภาพที่เจ้าวาดนั้นมันยังเป็นแค่พื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น  แม่ได้ข่าวว่าจิตกรเอกนามว่า沈周Shěn Zhōuเสิ่นโจวอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก  เจ้าจงไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนการวาดภาพชั้นสูงกับเขาเถิด  และถ้าเจ้าเรียนวาดภาพไม่ได้ดีก็จงอย่ากลับมาหาแม่

            เมื่อถังหยินได้ร่ำเรียนวิชาการวาดภาพจากอาจารย์เลิ่นโจว  ฝีมือของเขาก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด  อยู่มาวันหนึ่งถังหยินนำภาพของตนเองและของอาจารย์มาเทียบกัน  ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กันเลย  ถังหยินก็อดไม่ได้ที่จะดีใจอย่างลับๆ  อาจารย์เห็นดั่งนั้นแล้วจึงสั่งให้ภรรยาของเขาเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงส่งถังหยินกลับบ้าน

            เมื่อถึงเวลาถังหยินจึงมุ่งหน้าไปสถานที่จัดเลี้ยงนั้น  ซึ่งอยู่ภายในสวนหลังบ้านของอาจารย์  เมื่อเข้าไปในห้องที่จัดเลี้ยง  เป็นห้องที่เขาไม่เคยเข้ามาก่อน  ในห้องนั้นมีประตูอยู่สี่บาน  และยิ่งทำให้เขาแปลกใจมากยิ่งขึ้นก็คือ  ในห้องนั้นไม่มีหน้าต่างเลยสักบานเดียว  เขาจึงใช้สายตามองลอดออกไปผ่านตอกไม้ที่สานกันเป็นลายตารางหมากรุก  ปรากฏว่าภายนอกประตูนั้นกลับมีทิวทัศน์ที่สวยสดงดงาม  ทั้งภูเขา  น้ำตก  นก  สัตว์ต่างๆและต้นไม้  ซึ่งทั้งสามประตูนั้นล้วนเป็นผลงานที่อาจารย์วาดขึ้น 

เมื่อถังหยินทราบความจริง  เขาถึงกับคุกเข่าลงตรงหน้าอาจารย์แล้วขออย่าให้อาจารย์ไล่เขากลับบ้าน  เขาจะขออยู่ร่ำเรียนวิชาวาดภาพอย่างตั้งใจ  ขัดเกลาจิตใจไม่ให้ยกตนข่มครูอีก 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เมื่อถึงวันที่ถังหยินเรียนจบ  เขาจึงลงมือเข้าครัวตระเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงขอบคุณอาจารย์  เมื่ออาหารจัดวางอย่างเรียบร้อยบนโต๊ะ  มีแมวตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาจะกินปลา  ทันใดนั้น  ถังหยินเห็นเข้าจึงใช้ฝ่ามือตีเข้าไปที่แมวตัวนั้นอย่างจัง  แมวถึงกับร้องเสียงหลง  ด้วยความที่แมวนั้นตกใจจึงกระโดออกไปที่หน้าต่าง  แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เจ้าแมวตัวนั้นชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง  หน้าต่างที่แมวเห็นนั้นแท้จริงแล้วเป็นภาพที่ถังหยินวาดไว้  อาจารย์เสิ่นโจวเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด  จึงหัวเราะด้วยเสียงอันดัง  แล้วกล่าวกับถังหยินศิษย์รักว่า  ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องกลับไปหาแม่เจ้าแล้ว  ไม่ได้เจอกันเสียนาน  นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว  รีบกลับไปเถอะศิษย์รัก

จะเห็นได้ว่า  ถ้าหากไม่ได้แม่ที่มองเห็นปัญหาของลูกและพยายามค้นหาวิธีทางที่จะอบรมสั่งสอนลูกให้กลับมาดีดั่งเดิม  ด้วยความมุ่งมั่น  ตั้งใจ  การยืนหยัดไม่หวั่นไหวต่อการที่จะต้องไม่เห็นหน้าลูกเป็นเวลานานๆของแม่  จึงทำให้ถังหยินกลายเป็นจิตรกรเอกของจีนที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ 


ที่มา

李杰主编. 三字经[M]. 哈尔滨:哈尔滨出版社, 2005, P2-5.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น